การขลิบหนวด ตามสุนัตของท่านนบี (ซ.ล)

การขลิบหนวด ตามสุนัตของท่านนบี (ซ.ล) สังเกตมั้ย ทำไมชายชาวอาหรับถึงใว้ทั้งหนวดและเครา ไม่โกนหนวดเกลี้ยงและใว้เฉพาะเคราเหมือนมุสลิมไทยเรา ? บางคนอาจคิดว่า ทำไมพวกเขาถึงไม่ตามสุนัตนบี ? ความจริงแล้ว พวกเขาทำตามสุนัตนบีนั้นแหละครับ แต่พวกเราต่างหากที่เพี้ยนไปจากสุนัตนบี ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น นั้นก็เพราะว่าพวกเขาเข้าใจความหมายของฮาดิษดีกว่าพวกเรา เขาเข้าใจคำว่า "ขลิบหนวด" ว่ามันคืออะไร เพราะเขาคือเจ้าของภาษา "ขลิบ" คือการตัดตกแต่งให้สั้น พูดภาษาบ้านเราคือ การเล็มหนวดให้สั้น เพราะว่าหนวด ถ้าเราปล่อยใว้นานๆ มันจะยาวลงมาปกปิดปาก ทำให้ลำบากในการรัปทานอาหาร เลยมีการสั่งให้ขลิบตกแต่งบ่อยๆ แต่ไม่ใด้สั่งให้โกนเกลี้ยง และห้ามโกนจนเกลี้ยงด้วย เพราะหนวด คือ สัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นชาย อย่าเอาความเป็นชายออก จนไปเหมือนกันผู้หญิง เพราะผู้หญิงไม่มีหนวด นับเป็นความโปรดปรานที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงมีต่อบุรุษในบรรดาปวงบ่าวของพระองค์ โดยพระองค์ทรงทำให้มันเป็นความโดนเด่นของผู้ชาย เป็นสิ่งเเยกเเยะถึงความเเตกต่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง อีกทั้งมันคือเครื่องประดับ เเละรัศมีบนใบหน้าของพวกเขา ด้วยเหตุนี้ศาสนาจึงกำชับอย่างเเรงกล้าให้บรรดาบุรุษได้ขลิบหนวดของเขาให้สั้น พร้อมทั้งปล่อยเคราของเขาให้ยาว ดังที่ท่านนบีﷺได้กล่าวไว้ในหะดีษของท่านอิบนุอุมัร รอฎิยัลลอฮุอันฮุมา ว่า : خالفوا المشركين قصوا الشوارب وأعفوا اللحى ความว่า : จงทำให้เเตกต่างกับบรรดาผู้ตั้งภาคี จงขลิบหนวด(ไม่ใช่โกน)เเละจงไว้เครา (บันทึกโดยอิหม่ามบุคอรีเเละมุสลิม) และในหะดีษอีกบทหนึ่งของท่านอบูฮุร็อยเราะฮฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ ท่านนบีﷺได้กล่าวว่า : جزوا الشوارب وأرخوا اللحى خالفوا المجوس ความว่า : จงขลิบหนวด (ไม่ใช่โกน) เเละไว้เครา จงทำให้เเตกต่างกับพวกบูชาไฟ (บันทึกโดยอิหม่ามมุสลิม) นอกจากนี้ ท่านอิบนุหัซมฺ ได้รายงานอิจมาอฺ(มติเอกฉันท์ของปวงปราชญ์)ว่าเเท้จริงการขลิบหนวดเเละไว้เครานั้น เป็นสิ่งจำเป็น(ฟัรฎู) โดยได้อ้างอิงหลักฐานจากหะดีษหลายๆบทด้วยกัน รวมทั้งหะดีษของท่านอิบนุอุมัร รอฎิยัลลอฮุอันฮุมา ที่ได้นำเสนอไปแล้วข้างต้น เเละนอกจากนี้ยังมีหะดีษของท่าน ซัยดฺ บิน อัรก็อม ที่ระบุว่าแท้จริงท่านนบีﷺได้กล่าวว่า : "ผู้ใดที่ไม่เอาจากหนวดของเขา เขาไม่ใช่พวกของเรา" หะดีษบทนี้ท่านอิหม่ามอัตติรมีซีได้ให้สถานะว่าเป็นหะดีษศอฮีหฺ โดยได้กล่าวไว้ใน"อัล-ฟุรูอฺ"ว่าสำนวนนี้ในทรรศนะของมัซฮับฮัมบะลีให้ความหมายในทางของการห้าม